วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บันทึกสะท้อนการเรียนรู้ครั้งที่ 5



                ความรู้ใหม่ - การเขียนพิธีการเปิด-ปิด  ถ้าขึ้นต้นด้วยคำว่า "เรียน" (ตำแหน่ง) จะใช้กับทั่วไป  แต่ถ้าขึ้นต้นด้วยคำว่า "กราบเรียน" (ตำแหน่ง) จะใช้กับประธานองคมนตรี นายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา  ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานศาลฎีกา


            สิ่งที่ได้รับ - การเขียนอัตชีวประวัติ คือ การเขียนเรื่องของตัวเอง แต่.... การเขียนชีวประวัติ คือการเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลอื่น

ข้อเสนอ - ชอบบรรยากาศการเรียนการสอนแบบวันนี้  ทำให้ฉันรู้สึกไม่น่าเบื่อ อิอิ ><





น.ส. นิติมา  แดงสกล
รหัส 55113400231

วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556

อัตชีวประวัติของฉัน

   


                                                     การเขียนอัตชีวประวัติของตนเอง

        สวัสดีค่ะ... ฉันชื่อ นางสาวนิติมา  แดงสกล  ชื่อเล่น  เอิร์น  เกิดวันเสาร์  ที่ 24  เดือน กรกฎาคม  พ.ศ. 2536  ปัจจุบันอายุ 20 ปี  ชอบการ์ตูนโดเรม่อลแต่จะชอบสีชมพู เพราะทำให้ฉันรู้สึกนุ่มนวลอ่อนหวาน  อบอุ่นและมีพลัง อาหารโปรดของฉัน คือ  ส้มตำ  ไก่ย่าง ข้าวเหนียวหมูปิ้ง  ฉันเกิดที่สถานีอนามัยรับร่อ  จ. ชุมพร  (แรกเกิดฉันมีน้ำหนัก  3  กิโลกรัม  2  ขีด)  มีพี่น้องทั้งหมด  2  คน  รวมทั้งตัวฉันเองและพี่ชาย  1 คน  พี่ชายของฉันห่างกับฉัน  5  ปี ชื่อ นายวัชพงษ์ แดงสกล  อายุ  25  ปี  พี่ชายได้แต่งงานมีลูกชาย  1  คน ฉันจึงรักหลานชายคนแรกของครอบครัวฉันมาก  ส่วนพ่อของฉันชื่อ  นายอิ้วเลี่ยง  แดงสกล  อายุ  45 ปี  แม่ของฉันชื่อ  นางละเอียด  แดงสกล  อายุ  45  ปี  ครอบครัวของฉันประกอบอาชีพ  เกษตรกรรม ทำเกี่ยวกับสวนปาล์มและสวนยาง    ในสภาพครอบครัวของฉันอยู่กันอย่างอบอุ่น รักใคร่ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  ทุกๆ คนจะคอยเอาใจใส่กัน  จะคอยเปงห่วงกันอยู่เสมอ  แต่นิสัยส่วนตัวของฉันจะเป็นเด็กค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเอง  ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็ก  ทุกคนในบ้านจึงตามใจตลอด  จนติดเป็นนิสัย  อยากได้อะไรก็ต้องได้เสมอ  ฉันจะสนิทกับแม่มาก ปรึกษาพูดคุยกับแม่ได้ทุกๆ เรื่อง  แม่จะสอนและให้ข้อคิดอยู่เสมอ
        ต่อมาฉันได้เริ่มเข้าศึกษาที่โรงเรียนก่อนเข้าอนุบาล  (ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก)  จากนั้นก็เข้าศึกษาต่ออนุบาลที่โรงเรียนบ้านหาดใน  ซึ่งตอนนั้นฉันยังจำได้พอเข้าศึกษาอนุบาลวันแรก  ฉันร้องตามแม่มากทั้งวันจนแม่มารับกลับบ้านตอนเย็น  ส่วนกิจวัตรประจำวันในตอนเป็นเด็กอนุบาลก็จะซนและเอาแต่ใจตัวเอง  ขี้งอล มาก  เช้ามาก็ต้องสะพายกระเป๋าสีชมพูกับปิ่นโตและกระบอกน้ำสีชมพูทั้งหมด  ไปโรงเรียนจะมีพ่อคอยรับ-ส่ง  อยู่ตลอด  กิจกรรมการเรียนการสอนส่วนมากครูจะให้ปั้นดินน้ำมัน  ระบายสี  หัดเขียน ก-ฮ  ฟังครูเล่านิทานก่อนนอน ออกกำลังกายในตอนเช้าหลังจากเข้าแถวเสร็จ  ดื่มนม  พอบ่ายสามโมงครึ่งก็นั่งรอพ่อมารับ  พอเห็นของเล่นที่อย่างได้ก็จะบอกพ่อกับแม่ซื้อให้  ถ้าไม่ซื้อให้ก็จะร้องไห้  ตะโกน  เสียงดัง  จนกว่าพ่อกับแม่จะซื้อให้  เป็นต้น    พออายุย่างเข้า  7  ขวบได้เข้าศึกษาต่อในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่  1  โรงเรียนเดิมเนื่องจากใกล้บ้านและฉันได้ศึกษาโรงเรียนบ้านหาดในจนสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่  6  ในช่วงเด็กวันประถมฉันจะชอบเขียนคัดลายมือ  เขียนเรียงความวันพ่อและวันแม่  และเป็นตัวแทนของห้องเรียนอยู่เสมอ บางคร้ังก็ได้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งขันคัดลายมือ  ปั้นดินน้ำมัน ได้ที่ 1 และ  ได้ที่  2 ช่วงเวลาอยู่ที่โรงเรียนก็จะเล่นกับเพื่อนๆ  อย่างสนุกสนานจนได้บาดแผลกลับบ้านอยู่ทุกวัน ส่วนมากจะเป็นที่หัวเข่าขาทั้ง  2  ข้าง  และช่วงประมาณชั้นประถมศึกษาปีที่  6  ได้มีเหตุการณ์ร้ายๆ  เกิดขึ้นกับฉัน  3 เหตุการณ์  เรื่องแรกคือ  ขับรถจักรยานยนต์ล้มขาบวมมาก  ต้องนอนพักอยู่บ้านประมาณ  1  สัปดาห์  ต่อมา ก้างปลาได้ติดคอ  ตอนนั้นเหมือนหายใจไม่ค่อยออกคิดว่าตัวเองต้องตายแล้ว  แต่พ่อกับแม่ได้พาไปหายาย  ใช้เท้าเขี่ยให้ตามที่โบราณเล่ากันมาคนที่เกิดเอาเท้าออกมาก่อนจะสามารถเขี่ยก้างปลาได้  ยายได้เขี่ยให้ฉันก็รู้สึดีขึ้น  แต่เพราะยังมีบาดแผลที่ก้างตำ  ฉันเจ็บมากประมาณ  1  สัปดาห์  รับประทานอาหารไม่ได้น้ำหนักลดถึง  5  กิโลกรัม  จนแม่ต้องพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลวิรัชศิลป์  หมอได้ให้ยามาทานก่อนเพื่อรักษาบาดแผลและนัดวันถ้าไม่หายให้มาเอกซเรย์ว่ายังมีก้างปลาหลงเหลืออยู่  แต่ไม่ถึงวันนัดฉันได้หาย  แต่หลังจากก้างปลาติดคอครั้งนั้นแล้วทำให้คอฉันมีปัญหาตลอด  ทำให้คออักเสมออยู่เสมอ  เรื่องที่  3  คือ  ขณะซักผ้าอยู่ที่บ้านย่า  สายไฟฟ้าได้รั่วจึงทำให้ฉันโดนไฟฟ้าดูด  ทำให้นิ้วก้อยกับนิ้วนางด้านซ้ายเป็นแผลเป็นจนปัจจุบัน  ใกล้จะสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่  6  เป็นช่วงที่ต้องสอบเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น  ฉันและเพื่อนๆ  ได้ไปสอบโรงเรียนประจำจังหวัดชุมพรและโรงเรียนในตัวเมือง  ทั้งสอบและหยิบฉลากแต่ก็ไม่ได้  ฉันรู้สึกเสียใจมาก  แต่พ่อกับแม่คอยอยู่ข้างๆ  และปลอมใจฉันเสมอ  ฉันจึงตัดสินใจไปสมัครเรียนโรงเรียนใกล้ๆ  บ้าน  คือ  โรงเรียนท่าข้ามวิทยา  สอบเลือกห้องฉันได้อยู่ห้อง  3  รุ่นฉันมีทั้งหมด  5  ห้องเรียน  พ่อจึงบอกให้ตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้  ถ้าขออะไรก็จะตามใจเสมอ  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  1  ฉันได้เรียนห้อง  3  และพยายามตั้งใจเรียนและขยันให้มากกว่าเดิม  จนในที่สุดชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2  และ  3  ฉันจึงได้อยู่ห้อง  1  เด็กห้อง  1  เป็นเด็กนักเรียนที่มีเกรดเฉลี่ย  3.00  ขึ้นไปและประพฤติตัวดี  ทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจขึ้นมานิดหนึ่ง  แต่ในช่วงมัธยมต้นนั้น  กฏของโรงเรียนต้องตัดผมสั้นและห้ามตัดผมหน้าม้า  ต้องตรวจความเรียบร้อยทุกๆ  สิ้นเดือน  ตอนประมานเปิดเทอม  2  ตอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2  ใหม่ๆ  ฉันได้ตัดผมหน้าม้า  พอถึงเวลาตรวจผมจึงโดนครูทำโทษโดนการให้ไปทำความสะอาดห้องน้ำหลังเลิกเรียน  1  วัน  ตั้งแต่โดนทำโทษครั้งนั้นฉันจึงไม่ตัดผมหน้าม้าอีก ใกล้จะสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่  3  พ่อจึงให้ฉันไปสมัครสอบโรงเรียนประจำจังหวัดชุมพรเพื่อศึกษาต่อชั้นมัธยมตอนปลาย  พ่ออยากให้ฉันเรียนสานสามัญ  แต่ตอนนั้นฉันเริ่มมีความรู้สึกไม่อยากเรียนสายสามัญจึงเลือกไปศึกษาต่อสายอาชีพ  ได้ศึกษาที่วิทยาลัยเทคนิคชุมพร  เขต 1 เรียนแผนกการขายและการตลาด  ทำให้พ่อไม่พอใจอย่างมาก  แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะฉันไม่อยากไปเรียนสายสามัญ  เพราะฉันคิดแค่ว่ามาเรียนสายอาชีพจะสบายเข้าออกได้ตลอดเวลา  เมื่อได้เข้ามาศึกษาต่อระดับ ปวช. แล้วก็ไม่ได้สบายอย่างที่คิด  เพราะทุกๆ  โรงเรียนก็จะมีระเบียบและวินัยที่แตกต่างกัน  ฉันสามารถไว้ผมยาวได้แต่ต้องมัดผมให้เรียบร้อย  ทุกๆ เดือนครูก็จะตรวจผมเช่นเดิม ฉันโดนครูตัดผมแทบทุกครั้ง  เพราะครูจะให้ปล่อยผมลงมาซึ่งฉันได้ซอยผมมาตลอด  พอเรียนอยู่ ปวช. 3 ภาคเรียนที่ 1 ฉันต้องออกไปฝึกงานตามสถานประกอบการ  ฉันได้ไปฝึกที่ร้าน  7-11  วันแรกที่ได้ฝึกงานทำให้ฉันต้องร้องไห้เพราะทั้งเหนื่อยและผู้จัดการพูดจาแรง  แต่พอผ่านไป  2-3  วันฉันเริ่มรู้งานและนิสัยใจคอผู้จัดการและพี่ๆ ร่วมงานจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้เหนื่อยมาก  ผู้จัดการก็ใจดีแต่เขาเป็นคนพูดจาเสียงดัง  ฉันก็อดทนและทำจนผ่าน  อีกอย่างฉันยังได้เงินเดือนทุกๆ เดือน  จนฝึกงานเสร็จ  มันเป็นเงินจำนวนหนึ่งฉันภูมิใจมากที่ตัวเองทำได้  จึงนำเงินทั้งหมดให้แม่  แม่จึงพาฉันไปซื้อสร้อยคอ  ฉันจึงเก็บและรักษาไว้จนปัจจุบัน  ต่อมาฉันใกล้จะสำเร็จการศึกษาในระดับ ปวช.  พ่อจึงพูดว่าอยากให้เรียนหมอหรือครู  ได้ทำงานข้าราชการ  ฉันจึงลองสมัครสอบครูที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาแต่ไม่ได้  จึงมาสอบที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต  ฉันสอบได้จึงทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจแล้วหนึ่งขั้น  ฉันจึงตัดสินใจมาศึกษาคณะครุศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต


           .....สิ่งที่น่าภาคภูมิใจของฉันคือ  ฉันได้มีประสบการณ์การฝึกงานตอนสมัยเรียน ปวช. 3  ทำให้เป็นความทรงจำที่ดีและฝึกให้ฉันอดทน  แต่ในตอนนี้ฉันรู้สึกภูมิใจและปลื้มใจมากที่ได้มาเรียนคณะครุศาสตร์  เอกการประถมศึกษาเป็นรุ่นแรกของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต. ฉันจะพยายามทำตัวอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้องๆ  รุ่นต่อๆ  ไป การที่ฉันเรียนครูทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจในตัวฉันแล้วหนึ่งขั้น  ฉันจึงพยายามเรียนให้จบเพื่อใบปริญญาไปฝากพ่อกับแม่จะได้ดีใจและยิ่งภูมิใจในตัวฉันมากขึ้น........  
             .....^___________^.....







                 นางสาว นิติมา แดงสกล 55113400231 

         

วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บันทึกสะท้อนการเรียนรู้


วันนี้ไม่ได้เข้าเรียน เหตุเกิดเพราะว่าท้องเสีย  แต่ก็ถามเพื่อนว่าวันนี้ได้เรียนอะไรไปบ้าง เลยได้ข้อสรุปว่า
      -เพื่อนๆนำเสอนงาน 3 กลุ่ม ได้แก่ การเขียนอัตชีวประวัติ การเขียนบทวิจารณ์ และการเขียนเพื่อเล่าเรื่อง

  และหวังว่าครั้งต่อไปจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก



   นางสาว นิติมา  แดงสกล   55113400231

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

บันทึกสะท้อนการเรียนรู้ ครั้งที่ 3


 
         สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนี้ - วันนี้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะการเขียน ซึ่งการเขียน หมายถึง การถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู่สึกและความต้องการของตนเองมาเป็นตัวอักษรเพื่อสื่อความหมายให้ผู้อื่นได้เข้าใจ ลักษณะของการเขียนมี 3 ประเภท คือ
- ภาษาปาก
- ภาษากึ่งแบบแผน
- ภาษาแบบแผน


          ความรู้ใหม่ - ทำให้เราได้ทราบถึงความหมายและการใช้คำรวมถึงสำนวนต่างๆได้อย่างถูกต้อง สำนวนที่จำผิดมา เช่น กงกำกงเกวียน ....แต่ที่จริงแล้ว คือ กงเกวียนกำเกวียน



          ข้อเสนอแนะ - ชอบบรรยายกาศในห้องเรียน มีการเรียนการสอนแบบนี้ รู้สึกสนุกเพลิดเพลิน ทำให้ชอบในการมาเรียนแบบนี้


                                     น. ส. นิติมา  แดงสกล รหัส 55113400231  ตอนเรียน E1

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

บันทึกสะท้อนการเรียนรู้ ครั้งที่ 2



สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนี้ - วันนี้ได้เรียนเกี่ยวกับ "ภาษา" มีทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน ซึ่งภาษาจะเป็นถ้อยคำที่ใช้พูดและสื่อความ มาจากคำกิริยาภาษาสันสกฤต ว่า "ภาษ" แปลว่าพูด บอก หรือ กล่าว เพื่อนำมาใช้เป็น "คำพูดหรือถ้อยคำ" ประเภทของภาษา มี 2 ลักษณะ คือ
- วจนภาษา เป็นการสื่อสารด้วยวาจา มีทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน
- อวจนภาษา เป็นการสื่อสารที่ไม่ใช้วาจา จะแสดงออกทางสีหน้า


ความรู้ใหม่ - ได้ทราบว่าภาษาสันสกฤต ไม่มีตัวอักษรเป็นของตัวเอง และทำให้รู้ว่าภาษาพูดกับภาษาเขียนมีความแตกต่างกัน

ข้อเสนอแนะ - ชอบการเรียน การสอนเหมือนกับวันนี้ รู้สึก สนุก เพลิดเพลิน มีความสุข



                                                  นางสาวนิติมา  แดงสกล  รหัส 55113400231  ตอนเรียน E1

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

บันทึกสะท้อนการเรียนรู้ ครั้งที่1

สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนี้

     ในการเรียนวันนี้ทำให้เราได้ทราบถึงข้อตกลงในห้องเรียน และ ได้ทราบถึงเกณฑ์การให้คะแนนและรายละเอียดที่ต้องเรียนในเทอมนี้

ความรู้ใหม่

     ทำให้เราได้ทราบถึงวิธีการสมัคร Web Blogspot และขั้นตอนการใช้งานต่างๆ

ข้อเสนอแนะ

     เรื่องการเช็คชื่อ  ซึ่งจะทำให้เราเป็นคนตรงต่อเวลามากขึ้น และมีความรับผิดชอบ กระตือรือร้น ในการมาเข้าห้องเรียนให้ทันเช็คชื่อ


นางสาวนิติมา  แดงสกล รหัส 55113400231 ตอนเรียน E1